"สมเด็จพระสังฆราช" ถวายพระพรในหลวง 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555

"สมเด็จพระสังฆราช" ถวายพระพรในหลวง 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ทรงเป็นร่มฉัตรใหญ่ ให้แผ่นดินไทยเป็นสุข ทรงชวนคนไทย ตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพรชัย ให้มีพระเกษมสำราญ


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ความว่า ชาติไทยเราได้รักษาสิ่งสำคัญ 2 สิ่ง ควบคู่กันมาโดยตลอด คือ รักษาพระพุทธศาสนา และมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุขของชาติ นับได้ว่าเป็นการดำเนินตามพระพุทธภาษิตที่ว่า “ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม เหมือนฉัตรหรือร่มใหญ่ในฤดูฝน” และ “พระราชาเป็นประมุขของมนุษย์ทั้งหลาย” ธรรมเปรียบเสมือนร่มใหญ่ในฤดูฝนของผู้ประพฤติธรรมทั้งปวง ฉันใดพระราชาผู้ทรงธรรมย่อมเป็นร่มใหญ่ของปวงประชานิกรฉันนั้น ประเทศไทยเราได้มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นฉัตรใหญ่มาโดยลำดับ แต่ละพระองค์มีพระราชกฤดาภินิหารต่างๆกัน ตามควรแก่เหตุการณ์ในยุคสมัยนั้นๆ เป็นประดุจทรงอุปบัติเพื่อกอบกู้สถานการณ์และดำรงรักษาแผ่นดินไว้ให้เป็นสุข พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าย่อมประจักษ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราช ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เป็นประโยชน์สุขแก่ปวงประชานิกรและบ้าน เมืองเพียงไร ทรงดำรงพระองค์ในราชธรรมโดยมิได้บกพร่อง ควรที่ประชาชาวไทยทุกหมู่เหล่าจักได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดี

ในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 นี้จึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยพร้อมกันอธิษฐานจิต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ให้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยยิ่งๆขึ้นไป ตลอดจิรกาล ขอพระราชทานถวายพระพร

ในวันเดียวกันเวลา 07.00 น. ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์  สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานในพิธีอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ    เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ณ มณฑลพิธีลานธรรม วัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  มีหน่วยงานราชการและประชาชนมาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่น

พระธรรมวิมลโมลี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์  ในฐานะเจ้าคณะภาค 17 กล่าวว่า พิธีบรรพชาอุปสมบทวันนี้ จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ประกอบกับวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555ที่ผ่านมาด้วย อย่างไรก็ตาม การบวชในครั้งนี้ มีผู้มาสมัครและผ่านการสอบคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 125 นาค เมื่อบวชแล้วจะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรที่ทางวัดกำหนดไว้อย่าง เคร่งครัด เป็นเวลา 15 วัน และ 1เดือน ตามลำดับ

ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากการที่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อเดือนกันยายน 2554 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบโครงการจัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประจำพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 นั้นในการประชุม มส. เมื่อเร็วๆนี้ได้รายงานความคืบหน้าโครงการดังกล่าวว่าการจัดสร้างพระพุทธรูป ปางลีลาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า  พระพุทธธรรมมิกราชบพิตร ภูมิพลนริศรจตุราสีติวรรษมงคล (พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระธรรมิกราช สร้างถวายในวาระมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา)

นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า พระพุทธรูปปางลีลาจัดสร้างด้วยเนื้อทองคำ 99.99% สูง ตลอดรัศมี 38 ซม. น้ำหนักทองคำประมาณ 20 กิโลกรัม แท่นฐาน 8 เหลี่ยมสร้างด้วยเนื้อทองคำขาวน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ทั้งนี้ มส.ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจำลองตามแบบพระพุทธรูปปางลีลาประจำพระ ชนมพรรษาที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2520 ทั้งนี้ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเททอง ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระแก้ว ในวันที่ 23 ธันวาคม 2555ซึ่งการจัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลาครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มากนอกจาก มส.แล้วยังมีคณะสงฆ์ จีนนิกายและอนัมนิกายและประชาชนคนทั่วประเทศร่วมกันบริจาคเพื่อร่วมจัดสร้าง ด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อจัดสร้างพระพุทธรูปเสร็จเรียบร้อย มส.ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป
 

ที่มา : dailynews.co.th